เลือกสายไฟโซล่าเซลล์ อย่างไรให้คุ้มค่า และ มีประสิทธิภาพมากที่สุด

อย่าปล่อยให้แสงแดดสูญเปล่า! เลือกสายไฟโซล่าเซลล์ให้คุ้มค่า ประสิทธิภาพเต็มร้อย

สายไฟโซล่าเซลล์

การลงทุนติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เพื่อผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากในยุคที่ค่าไฟฟ้าพุ่งสูงมาก ๆ และผู้คนก็หันใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น แต่ทั้งนี้คุณรู้ไหมว่า "สายไฟ" สิ่งที่เราชอบมองข้ามไปนั้น มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อประสิทธิภาพและความคุ้มค่าของระบบโซลาร์เซลล์ทั้งหมด!

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะสายไฟที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือเลือกขนาดไม่เหมาะสม อาจกลายเป็นตัวการทำให้ประสิทธิภาพโดยรวมของพลังงานลดลงได้ ทำให้ระบบผลิตและส่งกระแสไฟได้ไม่เต็มที่ หรือร้ายแรงกว่านั้น อาจทำให้เกิดความร้อนสะสมจนนำไปสู่อันตรายจากไฟไหม้ได้ ส่งผลถึงชีวิต ฉะนั้นแล้วการเลือกสายไฟจึงไม่ใช่แค่เรื่องเล็ก ๆ ที่มองข้ามได้

และไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ที่กำลังสนใจติดตั้งสายไฟโซล่าเซลล์ หรือเจ้าของระบบโซลาร์เซลล์ที่อยากตรวจสอบความถูกต้องของสายไฟที่ใช้อยู่ บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกทุกแง่มุมของการเลือกสายไฟโซล่าเซลล์ รับรองได้เลยว่าบทความนี้มีคำตอบที่คุณต้องการแน่นอน ติดตามกันได้เลย

วิธีเลือกสายไฟโซล่าเซลล์ ให้ไม่พลาดทุกจุดสำคัญ

สายไฟโซล่าเซลล์เองก็เหมือนกันกับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่มีวิธีเลือกซื้อให้ได้ของมาตรฐานมากที่สุด เพราะหากคุณเพลี่ยงพล้ำซื้อสายไฟที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่ออุปกรณ์ หรือแม้กระทั่งเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้ ดังนั้นแล้วเราเลยยกปัจจัยดังต่อไปนี้ เพื่อประกอบกับการตัดสินใจของคุณ

1.ขนาดของสายไฟ (mm² - Millimeters squared)
ขนาดของสายไฟ (mm² - Millimeters squared) ตรงนี้นับเป็นปัจจัยสำคัญอันดับต้น ๆ ที่ต้องพิจารณาในการเลือกสายไฟสำหรับระบบโซลาร์เซลล์เลย ต้องอธิบายเพิ่มเติมว่าความสัมพันธ์ระหว่างขนาดสายไฟ (mm²) และปริมาณกระแสไฟฟ้า คือ mm² เป็นหน่วยวัดขนาดของสายไฟ โดยมีหลักการง่าย ๆ คือ ยิ่งตัวเลข mm² มากเท่าไหร่ ขนาดของสายไฟก็จะยิ่งใหญ่ขึ้นเท่านั้น และสามารถรองรับปริมาณกระแสไฟฟ้าได้มากขึ้นตามไปด้วย พอเห็นภาพกันไหม

เอาเป็นว่า ลองนึกภาพสายไฟเป็นเหมือนท่อส่งน้ำ ยิ่งท่อมีขนาดใหญ่เท่าไหร่ ก็จะสามารถส่งน้ำได้ปริมาณมากขึ้นเท่านั้น เช่นเดียวกันกับสายไฟ ยิ่งมีขนาดใหญ่ (mm² ใหญ่) ก็จะยิ่งสามารถส่งกระแสไฟฟ้าได้มากขึ้นโดยไม่เกิดความร้อนสูงเกินไป ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้สูญเสียพลังงานและอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบได้นั่นเองครับ

ส่วนคำถามที่ว่าการเลือกขนาดสายไฟ (mm²) ที่เหมาะสมเป็นแบบไหน ต้องบอกเลยว่า การเลือกขนาดสายไฟที่เหมาะสมกับระบบโซลาร์เซลล์ของคุณขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น

  • ปริมาณกระแสไฟฟ้าที่คาดว่าจะไหลผ่านซึ่งจะขึ้นอยู่กับขนาดของระบบโซลาร์เซลล์และอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ
  • ยิ่งสายไฟยาวเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีความต้านทานมากขึ้น ทำให้สูญเสียพลังงานมากขึ้น ดังนั้น หากสายไฟยาว ก็จำเป็นต้องใช้สายไฟขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อลดการสูญเสีย
  • ระบบโซลาร์เซลล์มีแรงดันไฟฟ้าที่แตกต่างกัน เช่น 12V, 24V, หรือ 48V ซึ่งมีผลต่อการเลือกขนาดสายไฟ

หากคุณเลือกสายไฟโซล่าเซลล์ที่ไม่เหมาะสมแล้ว อาจส่งผลกระทบไปยังวงกว้างได้ เพราะหากใช้สายไฟขนาดเล็กเกินไป จะทำให้สายไฟมีความต้านทานสูง เกิดความร้อนสะสม และอาจทำให้สายไฟละลายหรือไหม้ได้ นอกจากนี้ ยังทำให้ระบบทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพเนื่องจากสูญเสียพลังงานไปกับความร้อนได้อีกด้วย ส่วนสายไฟขนาดใหญ่เกินไปอาจไม่ก่อให้เกิดปัญหาในแง่ของประสิทธิภาพ แต่จะทำให้ต้นทุนสูงขึ้นโดยไม่จำเป็น เป็นต้น

2.ชนิดของสายไฟ
หากคุณคิดว่าจะใช้สายไฟแบบไหนก็ได้ คุณคิดผิดมาก ๆ เนื่องจากชนิดของสายไฟก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาในการเลือกสายไฟสำหรับระบบโซลาร์เซลล์โดยตรงเลย เพราะสายไฟแต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติและความเหมาะสมในการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป เราเลยขอแนะนำสายไฟที่เหมาะสมกับระบบโซล่าเซลล์ ดังนี้

สาย PV1-F (Solar H1Z2Z2-K TÜV/CE)
สายไฟชนิดนี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานกับระบบโซลาร์เซลล์โดยเฉพาะ เพราะมีคุณสมบัติเด่นคือ ทนทานต่อสภาพแวดล้อมภายนอกอาคารได้ดี ทนต่อรังสี UV และความร้อนสูง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับสายไฟที่ต้องสัมผัสกับแสงแดดอยู่ตลอด (ยิ่งกับแดดประเทศไทย) นอกจากนี้ สาย PV1-F ยังมีความยืดหยุ่นสูง ทำให้สะดวกในการติดตั้งและเดินสายนั่นเอง

สายสัญญาณ LIYCY, LIYCY-TP
อินเวอร์เตอร์ เปรียบเสมือนหัวใจสำคัญของระบบโซลาร์เซลล์ ทำหน้าที่แปลงไฟฟ้ากระแสตรง(DC)จากแผงโซลาร์เซลล์ ให้เป็นไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) ซึ่งเป็นรูปแบบไฟฟ้าที่เครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไปในบ้านและอาคารใช้งานจึงจำเป็นที่จะต้องใช้สายไฟที่ถูกต้องเหมาะสมกับการใช้งาน เพราะสายไฟชนิดนี้เป็นสายสัญญาณ มีบทบาทสำคัญในการส่งข้อมูล ควบคุม และตรวจสอบระบบโซลาร์เซลล์ เช่นสายสัญญาณชนิด LIYCY และสายไฟ LIYCY-TP

แรงดันไฟฟ้าของระบบ
ต้องอธิบายก่อนเลยว่าระบบโซลาร์เซลล์ทั่วไปมักมีแรงดันไฟฟ้าอยู่ที่ 12V, 24V หรือ 48V ซึ่งถือว่าเป็นแรงดันไฟฟ้าต่ำ ในกรณีนี้ เราสามารถใช้สายไฟที่มีขนาดเล็กกว่าได้ เนื่องจากปริมาณกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านจะน้อยกว่าระบบที่มีแรงดันไฟฟ้าสูง ส่วนในระบบโซลาร์เซลล์ขนาดใหญ่ หรือระบบที่ออกแบบมาให้มีแรงดันไฟฟ้าสูงนั่น อาจมีแรงดันไฟฟ้าสูงถึงหลายร้อยโวลต์เลยทีเดียว จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้สายไฟที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อให้สามารถรองรับปริมาณกระแสไฟฟ้าที่สูงขึ้นนั่นเอง

สำหรับการเลือกสายไฟให้เหมาะสมนั้น ต้องเริ่มที่ก่อนเลือกสายไฟเลย เราแนะนำว่าควรตรวจสอบแรงดันไฟฟ้าของระบบโซลาร์เซลล์ของคุณให้แน่ใจเสียก่อน โดยดูจากข้อมูลจำเพาะของอุปกรณ์ต่างๆ เช่น แผงโซลาร์เซลล์, อินเวอร์เตอร์, และแบตเตอรี่

ทั้งนี้สายไฟแต่ละชนิดจะมีค่าแรงดันไฟฟ้าสูงสุดที่สามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย ตรงนี้ให้เลือกสายไฟที่มีค่าแรงดันไฟฟ้าสูงสุดมากกว่าแรงดันไฟฟ้าของระบบ เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัย (ตรงนี้ต้องระวังมาก ๆ ) หากไม่แน่ใจว่าควรเลือกสายไฟที่มีค่าแรงดันไฟฟ้าเท่าใด ควรปรึกษา อินสไปร์ โปรเทค เพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติม

แล้วถ้าคุณเลือกสายไฟโซล่าเซลล์ที่ไม่เหมาะสมจะเกิดอะไรขึ้น? บอกเลยว่าหากใช้สายไฟที่มีค่าแรงดันไฟฟ้าต่ำกว่าแรงดันไฟฟ้าของระบบ อาจทำให้สายไฟร้อนเกินไป และอาจทำให้ฉนวนของสายไฟละลายหรือไหม้ได้ อันตรายมาก ๆ และสายไฟที่มีค่าแรงดันไฟฟ้าสูงเกินไปก็อาจไม่ก่อให้เกิดปัญหาในแง่ของความปลอดภัย แต่จะทำให้ต้นทุนสูงขึ้นโดยไม่จำเป็นนั่นเอง ฉะนั้นก็เลือกที่เหมาะสมจะดีที่สุดนะครับ

3.ระยะทางของสายไฟ
สายไฟทุกชนิดไม่เพียงแค่สายไฟโซล่าเซลล์ จะมีความต้านทานอยู่ภายใน และยิ่งสายไฟยาวเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีความต้านทานมากขึ้นเท่านั้น เมื่อกระแสไฟฟ้าไหลผ่านสายไฟที่มีความต้านทานสูง จะทำให้เกิดการสูญเสียพลังงานในรูปของความร้อน ซึ่งส่งผลให้ประสิทธิภาพของระบบโซลาร์เซลล์ลดลง พอเข้าใจไหม?

หากคุณไม่เข้าใจ เราแนะนำให้คุณลองนึกภาพว่าสายไฟเป็นเหมือนท่อส่งน้ำอีกเช่นเคย ยิ่งท่อยาวเท่าไหร่ น้ำก็จะไหลได้ช้าลงและสูญเสียแรงดันไประหว่างทางมากขึ้นใช่ไหม เช่นเดียวกันกับสายไฟเลยครับ ยิ่งสายไฟยาวเท่าไหร่ กระแสไฟฟ้าก็จะไหลได้ไม่เต็มที่และสูญเสียพลังงานไปมากขึ้นเท่านั้น

ฉะนั้นเพื่อลดการสูญเสียพลังงานในสายไฟ เราจำเป็นต้องเลือกขนาดสายไฟให้เหมาะสมกับระยะทาง โดยมีหลักการง่าย ๆ คือ ยิ่งระยะทางไกลเท่าไหร่ ก็ยิ่งต้องใช้สายไฟที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเท่านั้น เช่น หากระยะทางจากแผงโซลาร์เซลล์ไปยังอินเวอร์เตอร์หรือแบตเตอรี่ค่อนข้างไกล อาจจำเป็นต้องใช้สายไฟที่มีขนาด sqmm.หรือ mm² (เช่น 10 sqmm. หรือ 16 sqmm.) เพื่อลดการสูญเสียพลังงาน แต่หากระยะทางสั้น ก็อาจใช้สายไฟที่มีขนาด sqmm. เล็ก (เช่น 4 sqmm. หรือ 6 sqmm.)

หากคุณจะลองคำนวณขนาดสายไฟที่เหมาะสมกับระยะทางดู คุณสามารถทำได้โดยใช้สูตรคำนวณหรือตารางอ้างอิง ซึ่งจะคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ เช่น ปริมาณกระแสไฟฟ้า, แรงดันไฟฟ้า, และระยะทาง หากไม่แน่ใจว่าควรเลือกสายไฟขนาดใด ควรปรึกษาอินสไปร์ โปรเทค เรายินดีให้คำแนะนำ

เลือกสายไฟโซล่าเซลล์ให้คุ้มค่า ไม่จ่ายแพงเกินจริง

ระบบโซลาร์เซลล์คือการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาวก็จริง แต่ในระยะนี้ก็ต้องคำนึงถึงความคุ้มค่าด้วย ซึ่งนอกจากปัจจัยข้างต้นที่กล่าวไปแล้ว เราแนะนำเพิ่มเติมว่าให้ดูเลือกสายไฟที่มีอายุการใช้งานยาวนาน โดยปกติใช้งานได้มากกว่า 25 ปี เพื่อลดความจำเป็นในการเปลี่ยนสายไฟบ่อย ๆ และคำนึงถึงต้นทุนรวมของระบบ ไม่ใช่แค่ราคาสายไฟ แต่รวมถึงค่าติดตั้งและค่าบำรุงรักษาด้วย เป็นต้น

หากคุณไม่แน่ใจว่าควรเลือกสายไฟแบบใด อินสไปร์ โปรเทค เรายินดีให้คำแนะนำ พร้อมกับติดตั้งสายไฟอย่างถูกต้องและปลอดภัยตามมาตรฐาน เพื่อป้องกันความเสียหายและอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น

นอกจากการเลือกสายไฟโซล่าเซลล์ที่มีคุณภาพแล้ว การเลือกใช้สายสัญญาณ LIYCY ที่มีคุณภาพก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะสายเคเบิ้ลประเภทนี้ทำหน้าที่ควบคุมและส่งข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ ในระบบโซล่าเซลล์ โดยเฉพาะในส่วนของการมอนิเตอร์ประสิทธิภาพการทำงาน ซึ่งการใช้สายไฟที่มีคุณภาพต่ำอาจทำให้การส่งสัญญาณผิดพลาด ส่งผลให้ระบบทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ หรือแสดงค่าการผลิตไฟฟ้าที่คลาดเคลื่อนได้ การเลือกใช้สายสัญญาณที่มีคุณภาพจึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว ช่วยให้ระบบโซล่าเซลล์ทำงานได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพสูงสุด

สุดท้ายแล้วเราขอย้ำเตือนว่าอย่าปล่อยให้สายไฟ 'ไม่ดี' มาฉุด 'ไฟ' โซลาร์เซลล์ของคุณ อินสไปร์ โปรเทค เราคือตัวจริงเรื่องสายไฟโซล่าเซลล์ ทนแดด ทนฝน ไม่กลัวร้อน ใช้งานได้ยาวนาน คุ้มค่าทุกการลงทุน เราเลือกขนาดและชนิดสายไฟที่เหมาะสมกับระบบของคุณ ไม่ต้องเสี่ยง ไม่ต้องเดา เราจัดการให้ บริการครบวงจรตั้งแต่คำนวณ จัดหา พร้อมดูแลหลังการขาย ให้คุณมั่นใจได้ 100% สายไฟโซล่าเซลล์จะปัง ต้องวางใจอินสไปร์ โปรเทคเท่านั้น

 


 

สนใจ ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับ สายไฟ สายไฟ vct สายสัญญาณ สายเคเบิ้ล ติดต่อ บริษัท อินสไปร์ โปรเทค

ที่อยู่ : 11/2 ซอยจตุโชติ 15(นาสวน-เนียมกล่ำ) แขวง ออเงิน เขต สายไหม กรุงเทพฯ 10220
สายด่วน : 087-053-0999 | Email : sales@ipt-kabel.com
Facebook Fanpage: Inspire Protech | Line : @ipt-kabel