เลือกใช้สายไฟและวิธีอย่างเหมาะสมกับการติดตั้งงานเครน

สายไฟฟ้ากับเครน เลือกใช้และติดตั้งอย่างไรให้ปลอดภัย ไร้กังวล

สายไฟ

เครน เป็นเครื่องจักรกลหนักที่ใช้ยกและเคลื่อนย้ายวัสดุที่มีน้ำหนักมากในหลากหลายอุตสาหกรรม และการทำงานของเครนนั้นต้องอาศัยระบบไฟฟ้าที่เสถียรและปลอดภัย ซึ่งหัวใจสำคัญของระบบไฟฟ้าก็คือ "สายไฟ" ที่ทำหน้าที่จ่ายพลังงานไฟฟ้าไปยังส่วนต่าง ๆ ของเครน ฉะนั้นการเลือกใช้สายไฟที่เหมาะสมกับการติดตั้งงานเครน จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะมีผลต่อทั้งประสิทธิภาพการทำงาน ความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงาน และอายุการใช้งานของเครน

สำหรับการเลือกใช้สายไฟฟ้าสำหรับเครน ต้องคำนึงถึงปัจจัยหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นประเภทของเครน, สภาพแวดล้อมการใช้งาน, ขนาดและน้ำหนักของโหลด, รวมถึงมาตรฐานและข้อกำหนดต่าง ๆ การติดตั้งสายไฟก็เช่นกันครับต้องทำอย่างถูกวิธี เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น เช่น ไฟฟ้าลัดวงจร, ความเสียหายของอุปกรณ์, หรืออุบัติเหตุที่อาจนำมาซึ่งความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน

บทความนี้เลยจะนำเสนอแนวทางในการเลือกใช้สายไฟและวิธีการติดตั้งอย่างเหมาะสมสำหรับงานเครน เพื่อให้ผู้อ่านมีความรู้ความเข้าใจ และนำไปประยุกต์ใช้ในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ติดตามกันได้เลย

สายไฟ และสายส่งไฟฟ้าเส้นเลือดสำคัญในระบบเครน

หัวใจสำคัญที่ทำให้เครนทำงานได้อย่างราบรื่น คือ ระบบไฟฟ้า และสายไฟฟ้าก็เปรียบเสมือนเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงระบบนี้ การเลือกใช้สายไฟที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งยวด

1.ประเภทของเครน
เครนแต่ละประเภทมีรูปแบบการทำงาน และการเคลื่อนที่ที่แตกต่างกัน ส่งผลให้การเลือกใช้สายไฟมีความแตกต่างกันด้วย เช่นเครนเหนือศีรษะ ที่นิยมใช้สายไฟชนิดแบน หรือรางจ่ายไฟ เนื่องจากเครนประเภทนี้มีการเคลื่อนที่ในแนวราบเป็นหลัก

ต่อมาคือเครนแบบตั้งพื้น อาจใช้สายไฟชนิดกลม หรือสายไฟชนิดแบน ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน สุดท้ายคือเครนแบบ Jib crane มักใช้สายไฟชนิดกลม เนื่องจากมีการเคลื่อนที่แบบหมุนรอบจุดศูนย์กลางนั่นเอง

2.สภาพแวดล้อมการใช้งาน
สภาพแวดล้อมในการทำงานของเครน มีผลต่อการเลือกใช้สายไฟมากมาย เช่นอุณหภูมิ เพราะหากเครนทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูง ต้องเลือกใช้สายไฟที่ทนความร้อนได้สูง รวมไปถึงในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง ต้องเลือกใช้สายไฟที่มีคุณสมบัติป้องกันความชื้น หากมีการใช้งานเครนในพื้นที่ที่มีสารเคมี ต้องเลือกใช้สายไฟที่ทนทานต่อสารเคมี

นอกจากนั้น ในสภาพแวดล้อมที่มีฝุ่นละอองมาก ต้องเลือกใช้สายไฟที่มีปลอกหุ้มป้องกันฝุ่น และด้วยตัวเครนมีการสั่นสะเทือนขณะทำงาน ต้องเลือกใช้สายไฟที่ทนทานต่อการสั่นสะเทือน

3.ขนาดและน้ำหนักของโหลด
ขนาดและน้ำหนักของโหลดที่เครนยก มีผลต่อการเลือกใช้สายไฟฟ้าอย่างมาก เนื่องจากเป็นปัจจัยหลักที่กำหนดปริมาณกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านสายไฟ ซึ่งส่งผลต่อขนาดและประเภทของสายไฟที่ต้องใช้ เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการทำงาน

เนื่องจากการยกโหลดที่หนักขึ้น มอเตอร์ของเครนต้องทำงานหนักขึ้น จึงต้องการกระแสไฟฟ้ามากขึ้นเพื่อให้มีกำลังเพียงพอ และตัวสายไฟมีขีดจำกัดในการรองรับกระแสไฟฟ้า หากกระแสไฟฟ้าไหลผ่านสายไฟมากเกินไป จะทำให้สายไฟร้อนเกิน เสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้ หรือช็อต ดังนั้นการเลือกใช้สายไฟขนาดใหญ่เกินความจำเป็น จะทำให้สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายนั่นเอง

4.ระบบไฟฟ้า
ระบบไฟฟ้า มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเลือกใช้สายไฟสำหรับงานเครน เพราะสายไฟต้องทำงานร่วมกับระบบไฟฟ้าได้อย่างราบรื่นและปลอดภัย โดยมีปัจจัยหลัก ๆ ดังนี้

  • แรงดันไฟฟ้า
    เครนแต่ละรุ่น ออกแบบมาให้ทำงานกับระดับแรงดันไฟฟ้าที่แตกต่างกัน เช่น 220V, 380V, 415V ต้องเลือกใช้สายไฟที่สามารถทนทานต่อแรงดันไฟฟ้า ตามที่กำหนด โดยดูจากค่าแรงดันไฟฟ้าที่ระบุบนฉนวนสายไฟ เช่น 300/500V หมายถึง สายไฟเส้นนี้ สามารถใช้งานกับแรงดันไฟฟ้าได้สูงสุด 500V และเครนส่วนใหญ่ใช้ระบบไฟฟ้ากระแสสลับ แต่บางรุ่นอาจใช้ระบบไฟฟ้ากระแสตรง ต้องเลือกใช้สายไฟให้ถูกต้อง เพราะสายไฟบางชนิด ออกแบบมาสำหรับระบบไฟฟ้ากระแสสลับเท่านั้น

  • กระแสไฟฟ้า
    สายไฟแต่ละขนาด มีพิกัดกระแสไฟฟ้าที่สามารถรองรับได้สูงสุด ต้องเลือกขนาดสายไฟให้เหมาะสมกับกระแสไฟฟ้าที่มอเตอร์ของเครนใช้ โดยพิจารณาจากกำลังมอเตอร์ และ power factor การใช้สายไฟที่มีขนาดเล็กเกินไป อาจทำให้สายไฟร้อนเกิน และเกิดอันตรายได้ และมอเตอร์ของเครน ต้องการกระแสไฟฟ้าเริ่มต้นที่สูงกว่ากระแสไฟฟ้าขณะทำงานปกติ ต้องเลือกสายไฟที่สามารถรองรับกระแสไฟฟ้าเริ่มต้นได้

  • ระบบสายดิน
    เป็นระบบป้องกันอันตรายจากไฟฟ้ารั่ว โดยต่อสายดินจากตัวเครนลงสู่พื้นดิน ต้องเลือกใช้สายดินที่มีขนาดเหมาะสม และติดตั้งอย่างถูกวิธีเพื่อความปลอดภัย ทั้งนี้ระบบ Ground Fault Circuit Interrupter (GFCI) ซึ่งเป็นอุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้าดูด โดยตัดวงจรไฟฟ้าทันทีเมื่อตรวจพบกระแสไฟฟ้ารั่ว ควรติดตั้ง GFCI ในระบบไฟฟ้าของเครนเพื่อเพิ่มความปลอดภัย

  • อุปกรณ์ป้องกัน
    อันดับแรกที่ควรมีคือเซอร์กิตเบรกเกอร์ โดยทำหน้าที่ตัดวงจรไฟฟ้า เมื่อเกิดกระแสไฟฟ้าเกิน หรือไฟฟ้าลัดวงจร ต้องเลือกใช้เซอร์กิตเบรกเกอร์ที่มีขนาดเหมาะสมกับกระแสไฟฟ้าของเครน และอีกอย่างที่ควรมีคืออุปกรณ์ป้องกันไฟกระชาก ช่วยป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าในเครน จากความเสียหายที่เกิดจากไฟกระชาก

5.มาตรฐานและข้อกำหนด
มาตรฐาน IEC (International Electrotechnical Commission) ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลที่ครอบคลุม เกี่ยวกับอุปกรณ์ไฟฟ้า รวมถึงสายไฟฟ้า เช่น IEC 60227 (สายไฟหุ้มฉนวน สำหรับแรงดันไฟฟ้า ไม่เกิน 450/750V) และ IEC 60502 (สายไฟฟ้ากำลัง สำหรับแรงดันไฟฟ้า 1kV ถึง 30kV

มาตรฐานที่สองคือ TIS (Thai Industrial Standard) เป็นมาตรฐานของไทย ที่อ้างอิงมาตรฐาน IEC เช่น TIS 11-2553 (สายไฟฟ้าหุ้มฉนวน พีวีซี) การเลือกใช้สายไฟ ควรเลือกสายไฟที่ได้มาตรฐาน TIS หรือ IEC เพื่อรับประกันคุณภาพและความปลอดภัย

ทั้งนี้ อาจมีมาตรฐานเฉพาะ สำหรับสายไฟที่ใช้ในงานเครน เช่น มาตรฐาน DIN ของเยอรมนี หรือมาตรฐาน JIS ของญี่ปุ่น เป็นต้น

เครนยกของ เลือกสายไฟฟ้าแบบไหนให้ปลอดภัย ไร้กังวล?

เครนยกของ ไม่ว่าจะเป็นเครนขนาดใหญ่ในท่าเรือ หรือเครนขนาดเล็กในโรงงาน ล้วนต้องอาศัยสายไฟฟ้าคุณภาพสูงเพื่อการทำงานที่ราบรื่น ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ สายไฟฟ้าสำหรับเครนมีหลากหลายประเภท แต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติแตกต่างกันไป วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับสายไฟฟ้าที่นิยมใช้ในงานเครนเพื่อช่วยให้คุณเลือกใช้ได้อย่างเหมาะสมกับงาน

  1. สายไฟชนิดกลม
    สายไฟชนิดกลม เป็นสายไฟฟ้าที่ได้รับความนิยมในการใช้งานกับเครนหลายประเภท ด้วยคุณสมบัติที่หลากหลาย และข้อดีต่าง ๆ ที่ทำให้เหมาะสมกับการใช้งานในระบบไฟฟ้าของเครน โดยมีรายละเอียดดังนี้

    มีลักษณะเป็นทรงกระบอก ประกอบด้วยตัวนำไฟฟ้า (ทองแดง หรืออะลูมิเนียม) ที่หุ้มด้วยฉนวน และอาจมีเปลือกหุ้มภายนอกอีกชั้นหนึ่งเพื่อเพิ่มความแข็งแรง และความทนทาน มีทั้งแบบแกนเดียว และ หลายแกน (2, 3, 4 แกน หรือมากกว่า) เพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย ที่สำคัญคือมีหลากหลายขนาด ขึ้นอยู่กับขนาดของตัวนำ และ ความหนาของฉนวน โดยขนาดของสายไฟ จะสัมพันธ์กับพิกัดกระแสไฟฟ้าที่สามารถรองรับได้

    สายไฟชนิดกลมมีความยืดหยุ่น งอโค้งงอได้ง่ายสะดวกในการเดินสาย และติดตั้งในพื้นที่จำกัด เช่นตามรางเครน หรือภายในแขนเครน มีเปลือกหุ้มภายนอกช่วยเพิ่มความแข็งแรง ทนทานต่อแรงดึง แรงกด และแรงกระแทก เหมาะกับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่สมบุกสมบัน ทั้งยังมีฉนวนหุ้มตัวนำช่วยป้องกันไฟฟ้ารั่ว และความเสียหายจากสภาพแวดล้อม เช่นความชื้น น้ำ ฝุ่นละออง และสารเคมี

  2. สายไฟชนิดแบน (Flat cable)
    สายไฟชนิดแบน เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่นิยมใช้ในงานเครน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเครนเหนือศีรษะ และเครนที่มีการเคลื่อนที่ในแนวราบ ด้วยคุณสมบัติเฉพาะตัวที่ทำให้เหมาะสมกับการใช้งานลักษณะนี้

    สายไฟชนิดแบน มีลักษณะเป็นแผ่นแบน ประกอบด้วยตัวนำไฟฟ้าหลายเส้นเรียงขนานกัน และหุ้มด้วยฉนวน มีความยืดหยุ่นสูง สามารถโค้งงอได้ตามแนวราบ ออกแบบมาให้ทนทานต่อการบิดงอซ้ำๆ ในแนวราบ ซึ่งเป็นลักษณะการเคลื่อนที่ของเครนเหนือศีรษะ มีหลากหลายขนาด ขึ้นอยู่กับจำนวนตัวนำ และขนาดของตัวนำ

    ใช้พื้นที่ในการติดตั้งน้อยกว่าสายไฟชนิดกลม เหมาะกับการติดตั้งในราง หรือ ร่อง บนเครน ม้วนเก็บได้ง่าย ไม่เกะกะ ช่วยลดความร้อนสะสม เพิ่มอายุการใช้งานของสายไฟ และเหมาะกับการใช้งานกับเครน ที่มีการเคลื่อนที่ และ เสียดสีกับราง หรือ อุปกรณ์อื่น ๆ

  3. รางจ่ายไฟ
    รางจ่ายไฟ (Conductor bar หรือ Busbar) เป็นระบบจ่ายไฟฟ้าอีกชนิดหนึ่งที่นิยมใช้ในงานเครน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเครนเหนือศีรษะ ที่มีการเคลื่อนที่ในระยะทางไกล ๆ หรือต้องการความน่าเชื่อถือสูง

    มีลักษณะเป็นแท่งตัวนำไฟฟ้าทำจากทองแดง หรืออะลูมิเนียม มีหน้าตัดเป็นรูปสี่เหลี่ยม หรือ ราง ติดตั้งอยู่กับโครงสร้างของเครน หรืออาคาร รางจ่ายไฟจะถูกติดตั้งขนานไปกับรางวิ่งของเครน เพื่อจ่ายไฟฟ้าให้กับเครนตลอดแนวการเคลื่อนที่ ตัวเครนจะมีตัวรวบรวมกระแสไฟฟ้า (คล้ายแปรงถ่าน) ที่สัมผัสกับรางจ่ายไฟ เพื่อรับกระแสไฟฟ้าไปใช้งาน

    สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้สูง เหมาะกับเครนขนาดใหญ่ ที่ใช้มอเตอร์กำลังสูง ทนทานต่อการสึกหรอ และ การกัดกร่อน มีอายุการใช้งานยาวนาน ไม่ต้องบำรุงรักษาบ่อย ลดค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษา แถมยังมีฉนวนหุ้ม เพื่อป้องกันไฟฟ้าดูด และไฟฟ้าช็อต มีค่าความต้านทานต่ำ ลดการสูญเสียพลังงานไฟฟ้า

สุดท้ายแล้วเราอยากแนะนำว่า "เครน" ยกของหนัก "สายไฟ" รับภาระหนัก อย่ามองข้ามความสำคัญของสายไฟ ที่ต้องแข็งแกร่ง ทนทาน และปลอดภัย เลือกใช้สายไฟคุณภาพ ติดตั้งอย่างถูกวิธี เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดของเครน และความปลอดภัยของทุกคน Inspire Protech พร้อมให้คำปรึกษา และจัดหาสายไฟที่เหมาะสมกับงานเครนของคุณ ติดต่อเราเลย

 


 

สนใจ ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับ  สายไฟ,สายเคเบิ้ล,สายไฟ LIYCY, สายไฟคอนโทรล FLEX-JZ, YSLY-JZ, OPVC-JZ, สายไฟทนความร้อน, สายไฟกันน้ำ, สายไฟกันสารเคมี, สายทนน้ำมัน, สายทนความร้อน, สายไฟเครน, สายไฟเคลื่อนที่และสายไฟโรบอท

ติดต่อ บริษัท อินสไปร์ โปรเทค สายไฟอุตสาหกรรม ที่ลูกค้าไว้วางใจ

ที่อยู่ : 11/2 ซอยจตุโชติ 15(นาสวน-เนียมกล่ำ) แขวง ออเงิน เขต สายไหม กรุงเทพฯ 10220
สายด่วน : 087-053-0999 | Email : sales@ipt-kabel.com
Facebook Fanpage: Inspire Protech | Line : @ipt-kabel